หมวดหมู่: บทวิเคราะห์
logo ace
บล.เออีซี : Daily Focus
 
AECS Daily Focus
--------------
Market Outlook
•    วันนี้คาด SET Index ปรับลง  หลัง Sentiment ในประเทศยังเป็นลบจากการไม่เพิ่มน้ำหนักลงทุนหุ้นไทยของ MSCI  และติดตามผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนช่วง 2Q62 ประเมินกรอบการเคลื่อนไหว 1,655-1,670 จุด 
•    Market Factor
•    (+) สัญญาน้ำมันดิบ WTI และ Brent วานนี้ปรับเพิ่ม 2.8%DoD และ 2.0%DoD ตามลำดับ หลังคาดว่าซาอุฯจะปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลงในการประชุม OPEC และ Non-OPEC วันที่ 9 ก.ย. ณ เมืองอาบูดาบี เพื่อหนุนราคาน้ำมันให้สูงขึ้นหลังได้รับผลกระทบจากสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน
•     (-) หอการค้าไทย เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจในเดือน ก.ค. 62 อยู่ระดับ 62.2 ต่ำสุดในรอบกว่า 18 ปี จากความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและโลกที่มีความเสี่ยงสูงโดยเฉพาะสงครามการค้าสหรัฐ-จีนที่เพิ่มความรุนแรง, ภัยแล้ง, ราคาสินค้าเกษตรอยู่ในระดับต่ำ คาดว่าภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 62 ขยายตัวเพียง 2.9-3.2% จากเดิมที่คาดการณ์ 3-3.5% (เดลินิวส์)
•    (-) MSCI ปรับสัดส่วนหุ้นในดัชนี MSCI EM Market โดยปรับเพิ่มสัดส่วนหุ้นใหม่จาก China A-Share และ ซาอุดิอาระเบีย ขณะที่ไม่มีการเพิ่มสัดส่วนหุ้นไทย ส่งผลโดยอ้อมต่อสัดส่วนหุ้นไทยในดัชนีมีโอกาสปรับลดลง  โดยมีผล 27 ส.ค. นี้
•     (-) Consensus ปรับลดประมาณการ EPS โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus พบว่าเมื่อต้นปี EPS ปี 62 ที่ 115.14 บาท ขณะที่ปัจจุบันเหลือเพียง 103.23บาท หรือลดลง 10.34% Year To Date
•         Update Flow เมื่อวานนี้ต่างชาติพลิกซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย935.38ลบ.ส่งผลภาพรวม MTD ต่างชาติขายสุทธิรวม 14,087.66ลบ. 
•    Investment Strategy
•    สัปดาห์นี้เราประเมินดัชนี SET Index แกว่งในกรอบ 1,630-1,680 จุด โดยเรายังคงมีมุมมองในเชิงลบหลังบริษัทจดทะเบียน เริ่มประกาศผลดำเนินงานช่วง 2Q62 ออกมา ซึ่ง EPS ปี 62 จาก Consensus ยังคงลดลงต่อเนื่อง บวกกับคาดโฟลว์เงินไหลออกจากตลาดหุ้นไทยไปที่จีนหลัง MSCI ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้น A-Shareอย่างไรก็ดีในช่วงสั้นเรายังแนะนำให้นักลงทุนระมัดระวัง และคาดมีแรงขายจากผลประกอบการบจ.ในวันนี้และสัปดาห์หน้าโดยแนะนำลงทุนในหุ้นหลัก 3 กลุ่ม ดังนี้ 
•    หุ้นกลุ่มที่จะได้ประโยชน์จากแผนกระตุ้น ศก.ของรัฐฯ: จากภาวะ ศก.ที่ชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมาโดยเฉพาะภาคการบริโภคและการลงทุนของเอกชนทำให้เรามองว่าครม. ชุดใหม่ที่มีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการวานนี้มีโอกาสสูงที่จะเร่งออกนโยบายกระตุ้นศก. ในระยะสั้นเพื่อพยุง ศก. เราจึงแนะนำหุ้นที่ได้ประโยชน์จากประเด็นดังกล่าวที่ยังมี Upside น่าสนใจ ได้แก่ BJC (ช่วง 2H62 คาดเห็นการฟื้นตัว HoH จากการขยายสาขา BigC มากขึ้นจากสาขาทั้งในประเทศ 7 สาขาและสาขาที่กัมพูชา 1 สาขา BigC Food Place 1 สาขาและ Mini BigCราว 200 สาขา), SEAFCO (ช่วง 2Q62 คาดโต5.4%YoY ด้วยงานก่อสร้างที่รับรู้สูงกว่าปีก่อนเราปรับเพิ่มประมาณการหลังได้รับงานใหม่ขนาดใหญ่มูลค่ากว่า 900 ล้านบาท)
•    กลุ่ม Defensive Stock: ท่ามกลางความผันผวนของตลาดหุ้นเราเลือกหุ้นที่มีอัตราจ่ายปันผลน่าดึงดูดบวกกับกำไรช่วง 2H62 มีแนวโน้มโตดี แนะนำ ASK(คาดผลดำเนินงานมีโตต่อเนื่องตั้งแต่ช่วง2Q62 หนุนด้วยสินเชื่อรถพาณิชย์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามงานก่อสร้างภาครัฐฯที่จะทยอยเร่งตัวขึ้นบวกกับคาดได้ประโยชน์จากการทยอยเปลี่ยนรถตู้เป็นรถมินิบัสของผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะตามมาตรการของ ขสมก.), LH (คาดได้รับผลกระทบจากมาตรการ LTV ที่จำกัดเนื่องจากมีสัดส่วนโครงการแนวราบมากกว่าคอนโดราว 2-3 เท่าบวกกับมีกำไรจากการลงทุนในHMPRO, QH และ LHFG ที่โตต่อเนื่อง หนุนคาดผลการดำเนินทั้งปีโต YoY และคาดมีการจ่ายปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานช่วง 1H62 คิดเป็น 3.2-3.6% ต่อปี) และ SPALI (คาดราคาหุ้นปรับตัวลงมาสะท้อนกำไรช่วง 2Q62 ที่คาดหดตัวทั้ง YoY และ QoQ และคาดจ่ายเงินปันผลจากผลกำไรครึ่งปีแรกราว 0.5-0.55 บ. หรือคิดเป็น Div. Yield 2.3%)
•    กลุ่มที่คาดผลดำเนินงานมีแนวโน้มดีต่อเนื่อง: เหมาะกับการทยอยซื้อสะสม โดยเน้นหุ้นที่กำไรช่วง 2Q62 คาดโต YoY และช่วง 2H62 โตต่อ แนะนำ SAWAD (คาดกำไรปี 62 โต 30.8%YoY หนุนด้วยเป้าพอร์ตสินเชื่อโต 20-30% พร้อมแผนเปิดสาขาใหม่อีก300 สาขา, Asset Yield ฟื้นตัวตามสัดส่วนการรับรู้รายได้ผ่านสัญญาเงินกู้ผ่าน BFIT ที่มากขึ้นโดยล่าสุด SAWAD รายงานการถือครองหุ้น BFIT หลังTender Offer ที่ 82.04% บวกกับต้นทุนทางการเงินที่ปรับลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตร), SELIC (คาดปี62 เห็นการTurnaround ของกำไรสุทธิหลังเริ่มรวมงบการเงินกับPMCT ซึ่งคาดเห็นSynergy ชัดเจนขึ้นตามลำดับทั้งในด้านการพัฒนาสินค้าใหม่และการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่อีกทั้งยังไม่มีค่าใช้จ่ายเพื่อปรับโครงสร้างธุรกิจมากเช่นปีก่อน)และ III (ช่วง 2Q62 กำไรปกติโต 45.8%YoY หนุนด้วยธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศและธุรกิจบริหารจัดการโลจิสติกส์ บวกกับมีส่วนแบ่งกำไรที่โต 364%YoY จากธุรกิจที่เข้าซื้อกิจการสิงคโปร์และฮ่องกงในปี 61-62 ตามลำดับ)
 
    8-Aug-19    Change (pts.)    7-Aug-19
SET Index    1,665.12    -4.32    1,669.44
SET50 Index    1,096.27    -4.53    1,100.80
SET100 Index    2,427.87    -8.86    2,436.73
 
High    1,673.84    Gainers    667
Low    1,660.36    Unchanged    449
Value (Bt m)    62,650.12    Losers    883
Volume (*000)    18,647,643          
 
Market Valuation
SET Data    2018F    2019F    Long Term
Fwd PER (x)    16.5    15.1    15.1
EPS Growth (%)    13.9    9.3    3.0
EV/EBITDA (x)    11.1    10.2    9.8
FWD PBV (x)    1.9    1.8    1.7
Dividend Yield (%)    3.0    3.3    3.5
ROE    11.2    11.4    11.3
 
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt    8-Aug-19    WTD    MTD    YTD
Institution    (487.62)    5,253.38    2,520.09    (657.10)
Proprietary    (1,014.88)    (2,452.02)    (3,403.39)    15,133.57
Foreign     935.38    (8,738.48)    (14,087.66)    46,615.14
Individual    567.12    5,937.11    14,970.95    (61,091.60)
 
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
 
จิรภัทร  โบสุวรรณ (ID. 040051)    This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
ตฤณ  สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364)    This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932)    This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.
ธีรยุทธ  ฤทธิเผ่าพันธุ์    ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์    Data Support / Secretary

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!